เด็กสมาธิสั้นและซนผิดปกติ
(Attention Deficit&Hyperactive Disorders: ADHD) update 21/7/51
(Attention Deficit&Hyperactive Disorders: ADHD) update 21/7/51

Attention Deficit Hyperactivity Disorder: สมาธิสั้นและซนผิดปกติ หรือเรียกสั้นๆว่า ADHD เป็นหนึ่งในหลายๆพฤติกรรมที่ผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นกับเด็ก เด็กส่วนใหญ่ที่มีปัญหาด้านพฤติกรรมแล้วถูกส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิต มักจะแสดงภาวะADHD มากกว่ากลุ่มอาการอื่นๆ ซึ่งเด็ก ADHD มักจะมีปัญหาในเรื่องของการดำรงชีวิต ทั้งที่บ้าน โรงเรียนและการรักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่น
ADHDคืออะไร
Attention Deficit Hyperactivity Disorder เป็นความบกพร่องในการทำงานของระบบประสาท ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป 4 ด้าน ดังนี้
สมาธิ เป็นสาเหตุที่ทำให้เด้กมีปัญหาในการจดจ่อหรือมีสมาธิอยู่กับกิจกรรมที่กำลังกระทำ หรือเป็นการทำกิจกรรมนั้นๆให้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกิจกรรมที่ไม่น่าสนใจมากนัก
ยุกยิก เป็นสาเหตุทำให้เกิดการขาดการควบคุมตัวเอง พฤติกรรมนี้อาจส่งผลต่อความไม่มั่นคงในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การทำงาน โรงเรียนหรือชีวิต
อยู่ไม่นิ่ง เด็ก ADHD ส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทั้งหมด) มักจะไม่ค่อยนิ่งกระโดดไปมา และดูเหมือนจะไม่เหนื่อยเลยทีเดียว
เบื่อง่าย นอกจากว่ากิจกรรมหรืองานนั้นๆน่าตื่นเต้นหรือน่าสนใจมาก เช่น การเล่นวิดีโอเกม ดูโทรทัศน์หรือการเล่นนอกบ้าน โดยสำหรับเด็กที่บกพร่อง ทางสมาธิ มักจะเบื่อการทำกิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบ้าน การคำนวน การทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และการคิดภาษี และดูเหมือนว่างานต่างๆ เหล่านี้จะ ไม่มี วันสำเร็จเลย
Attention Deficit Hyperactivity Disorder เป็นความบกพร่องในการทำงานของระบบประสาท ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป 4 ด้าน ดังนี้
สมาธิ เป็นสาเหตุที่ทำให้เด้กมีปัญหาในการจดจ่อหรือมีสมาธิอยู่กับกิจกรรมที่กำลังกระทำ หรือเป็นการทำกิจกรรมนั้นๆให้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกิจกรรมที่ไม่น่าสนใจมากนัก
ยุกยิก เป็นสาเหตุทำให้เกิดการขาดการควบคุมตัวเอง พฤติกรรมนี้อาจส่งผลต่อความไม่มั่นคงในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การทำงาน โรงเรียนหรือชีวิต
อยู่ไม่นิ่ง เด็ก ADHD ส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทั้งหมด) มักจะไม่ค่อยนิ่งกระโดดไปมา และดูเหมือนจะไม่เหนื่อยเลยทีเดียว
เบื่อง่าย นอกจากว่ากิจกรรมหรืองานนั้นๆน่าตื่นเต้นหรือน่าสนใจมาก เช่น การเล่นวิดีโอเกม ดูโทรทัศน์หรือการเล่นนอกบ้าน โดยสำหรับเด็กที่บกพร่อง ทางสมาธิ มักจะเบื่อการทำกิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบ้าน การคำนวน การทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และการคิดภาษี และดูเหมือนว่างานต่างๆ เหล่านี้จะ ไม่มี วันสำเร็จเลย
จากพฤติกรรมที่พบด้านบน มักจะพบโดยทั่วๆไป ไม่เฉพาะที่บ้านหรือที่โรงเรียน เพราะถ้าเกิดเพียงที่บ้าน อาจเป็นไปได้ว่าเด็กเกิดความเบื่อหน่ายหรือไม่ อยากจะร่วมทำกิจกรรมที่บ้านและพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้มักจะสังเกตได้ก่อนอายุ 7 ปี เนื่องจากADHD เป็นความผิดปกติของการทำงานของระบบประสาท เราจึง สันนิษฐานว่าเด็กๆเหล่านี้ได้เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติ ถึงแม้ว่าพฤติกรรมหรืออาการต่างๆจะไม่ได้ส่งผลมากนักจนกระทั่งถึงชั้นประถมต้นเนื่องจากการเรียนที่ ยากมากขึ้น จึงสรุปได้ว่าพฤติกรรมต่างๆมักจะสังเกตได้ก่อนอายุ 7 ปี
"Children, teens, and adults can all suffer from Attention Deficit Hyperactivity Disorder"
ภาวะสมาธิสั้นส่งผลต่อเด็กและวัยรุ่นประมาณ 5% และส่งผลต่อผู้ใหญ่ประมาณ 3% มีเด็กADDน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าไม่ รับการรักษาอาการหรือพฤติกรรมต่างๆอาจส่งผลระยะยาวไปถึงช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ จาก American Psychiatric Association’s DSM IV ได้แบ่งชนิดของADHD เป็น
ADHD Inattentive Type
ADHD Impulsive-Hyperactive Type
ADHD Combined Type
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการใช้คำว่า ภาวะสมาธิสั้นร่วมกับภาวะอยู่ไม่นิ่ง หรือ สมาธิสั้นอย่างเดียว โดยที่ADHD มีค่อนข้างหลากหลายและแน่นอนว่า ADD และ ADHD ย่อมมีลักษณะไม่เหมือนกัน
ADHD Inattentive Type
ADHD Impulsive-Hyperactive Type
ADHD Combined Type
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการใช้คำว่า ภาวะสมาธิสั้นร่วมกับภาวะอยู่ไม่นิ่ง หรือ สมาธิสั้นอย่างเดียว โดยที่ADHD มีค่อนข้างหลากหลายและแน่นอนว่า ADD และ ADHD ย่อมมีลักษณะไม่เหมือนกัน
ภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติเป็นความบกพร่องที่มาจากพื้นฐานทางระบบประสาท
ยังมีข้อโต้แย้งค่อนข้างมากที่หลายๆคนไม่อยากจะให้มีการวินิจฉัยภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติ เนื่องจากยังขาดหลักฐานทางระบบประสาทหรือการวิจัยทางการแพทย์ หรือCriteriaกว้างเกินไป จริงๆแล้วยังมีการวิจัยจำนวนมากที่สนับสนุนว่าภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติมาจากความบกพร่องทางระบบประสาท
ภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติไม่ได้เป็นผลมากจากการเลี้ยงดูที่ไม่ดี หรือเป็นความท้าทาย น่ารังเกียจของตัวเด็ก
เพราะเด็กๆทุกคนย่อมชอบที่จะท้าทายอยู่แล้วไม่ว่าเด็กคนนั้นจะมีภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติหรือไม่ การท้าทาย ไม่เชื่อฟังและความเห็นแก่ตัว น่าจะมาจากเรื่อง ของนิสัยหรือศิลธรรมมากกว่าความผิดปกติทางระบบประสาท เพราะมีหลายคนที่ไม่ได้เป็น ADD, ADHD แต่ก็ยังมีนิสัยต่างๆเหล่านี้ได้
ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กๆที่มีพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้ควรต้องได้รับการอบรมหรือทราบข้อมูลเบื้องลึกในการดูแลเด็กๆเหล่านี้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งใน ปัจจุบันต้องยอมรับว่าพ่อแม่รุ่นใหม่ก็ได้เติบโตมาจากครอบครัวที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กันมาก่อน โดยที่พ่อแม่เหล่านี้ก็ได้พยายามดูแลลูกๆของตัวเองอย่างดีที่สุด แต่เขาไม่ได้ มีแบบอย่างมาก่อนเลย ซึ่งปัญหาเหล่าก็สามารถแก้ไขได้โดยการอบรม
ยังมีข้อโต้แย้งค่อนข้างมากที่หลายๆคนไม่อยากจะให้มีการวินิจฉัยภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติ เนื่องจากยังขาดหลักฐานทางระบบประสาทหรือการวิจัยทางการแพทย์ หรือCriteriaกว้างเกินไป จริงๆแล้วยังมีการวิจัยจำนวนมากที่สนับสนุนว่าภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติมาจากความบกพร่องทางระบบประสาท
ภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติไม่ได้เป็นผลมากจากการเลี้ยงดูที่ไม่ดี หรือเป็นความท้าทาย น่ารังเกียจของตัวเด็ก
เพราะเด็กๆทุกคนย่อมชอบที่จะท้าทายอยู่แล้วไม่ว่าเด็กคนนั้นจะมีภาวะสมาธิสั้นและซนผิดปกติหรือไม่ การท้าทาย ไม่เชื่อฟังและความเห็นแก่ตัว น่าจะมาจากเรื่อง ของนิสัยหรือศิลธรรมมากกว่าความผิดปกติทางระบบประสาท เพราะมีหลายคนที่ไม่ได้เป็น ADD, ADHD แต่ก็ยังมีนิสัยต่างๆเหล่านี้ได้
ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กๆที่มีพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้ควรต้องได้รับการอบรมหรือทราบข้อมูลเบื้องลึกในการดูแลเด็กๆเหล่านี้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งใน ปัจจุบันต้องยอมรับว่าพ่อแม่รุ่นใหม่ก็ได้เติบโตมาจากครอบครัวที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กันมาก่อน โดยที่พ่อแม่เหล่านี้ก็ได้พยายามดูแลลูกๆของตัวเองอย่างดีที่สุด แต่เขาไม่ได้ มีแบบอย่างมาก่อนเลย ซึ่งปัญหาเหล่าก็สามารถแก้ไขได้โดยการอบรม
โมสาร์ท นักประพันธ์เพลงผู้ยิ่งใหญ่ โทมัส อัลวา เอดิสัน ผู้คิดค้นการทำงานของหลอดไฟที่ใช้กันในปัจจุบัน กระทั่ง อับบราฮัม ลินคอร์น ผู้ที่ยกเลิกระบบทาสในประเทศสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ก็ล้วนมีประวัติว่าเป็นโรคสมาธิสั้นทั้งสิ้น
สมาธิ คือ กระบวนการที่คนเรามีจุดสนใจ จดจ่อ และเอาใจใส่เฉพาะกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งอาจเลือกที่จะสนใจเป็นระยะเวลาสั้นๆ หรือเป็นระยะเวลานานๆ ก็ได้ตามความต้องการของคนๆ นั้น รวมถึงความสามารถที่จะเบนความสนใจจากสิ่งหนึ่งไปยังอีกสิ่งหนึ่งได้เมื่อเราต้องการ

ความสนใจเกี่ยวข้องกับสมาธิอย่างไร?
ความสนใจ เป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของสมาธิ การก่อให้เกิดสมาธินั้นต้องอาศัยความสนใจเป็นหลัก รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆ ความสนใจจึงเป็นการรวบรวมความคิดให้จดจ่อในจุดนั้นๆ ซึ่งการรวบรวมความคิดให้ยาวนานและต่อเนื่องจึงสามารถทำให้เกิดเป็นสมาธิขึ้นมาได้
สมาธิมีผลอย่างไรต่อเด็กในวัยเรียน
สมาธิเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ในคนทุกวัย ไม่เพียงแต่ในเด็กเท่านั้น แต่เด็กซึ่งอยู่ในวัยที่กำลังเรียนรู้นั้นหากมีสมาธิดีจะได้เปรียบกว่า ทั้งในด้านการฟัง การคิด การรับรู้ และมีความสามารถในการจดจำได้มากกว่าเด็กที่มีสมาธิสั้น เพราะเด็กที่มีสมาธิสั้นนั้นยากที่จะบังคับจิตใจให้จดจ่อหรือสนใจอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นงานที่ต้องทำอยู่เป็นระยะเวลานาน จะวอกแวกได้ง่ายได้ ซึ่งนอกจากสมาธิสั้นจะมีผลต่อการเรียนรู้แล้ว ยังมีผลเสียอื่นๆ ที่เกิดขึ้นอีกหลายอย่างต่อตัวเด็ก และต่อครอบครัวตามมาด้วย
สมาธิสั้นคืออะไร
คุณคงเคยได้ยินคุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณครูบ่นเด็กๆ ที่อยู่ไม่นิ่งว่า “ดื้อ” “อยู่ไม่สุข” “ทำไมไม่อยู่นิ่งๆ บ้าง” “ไม่ฟังครูเลย” “ใจลอย” “ขี้ลืม” “ขี้เกียจจัง” “อย่าพูดแทรก” “ซนหกล้มอยู่เรื่อย” “ซุ่มซ่าม” แน่นอนค่ะว่าเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวและตัวเด็กเองเป็นอย่างมาก เพราะเด็กจะไม่รู้จักระวังอันตรายและคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง ซึ่งจะทำให้พ่อแม่รู้สึกเครียดเพราะกังวลเป็นห่วงลูกตลอดเวลา เมื่อเป็นห่วงมากก็แสดงออกด้วยการตักเตือนหรือบ่นมากเป็นธรรมดา ส่งผลให้เด็กรู้สึกว่ามีปมด้อย เพราะถูกตำหนิอยู่เสมอ บางคนอาจถูกทำโทษจากพ่อแม่ หรือครู บางคนทะเลาะกับเพื่อน เข้ากับเพื่อนไม่ได้ เรียนหนังสือไม่ทัน ผลการเรียนแย่ลงอาจสอบไม่ผ่าน จึงมักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนโง่ เรียนรู้อะไรยาก ไม่มีใครอยากคบด้วย เด็กจะยิ่งเครียด แล้วอาจแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว เพราะรู้สึกว่าไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้าได้
โดยทั่วไปแล้วในเด็กวัยเรียนจะพบเด็กสมาธิสั้นได้ร้อยละ 3-5 ซึ่งพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงถึงร้อยละ 4 สำหรับในประเทศไทยพบว่ามีเด็กสมาธิสั้นร้อยละ 5 โดยเฉลี่ยแล้วในห้องเรียนห้องหนึ่งจะพบเด็กสมาธิสั้นประมาณ 2- 3 คน !
ส่วนผู้ใหญ่ที่มีอาการสมาธิสั้นนั้นก็มีเหมือนกัน สังเกตได้ว่าจะเป็นคนที่มีความสนใจอะไรน้อยเกินไป ซึ่งอาจขาดความสนใจบางส่วนหรือทั้งหมดทำให้ขาดสมาธิในการทำงาน โดยเฉพาะงานที่ต้องทำเป็นประจำ เขาจะรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่สามารถอดทนที่จะรอคอย หรือทำงานที่ต้องใช้ระยะเวลานานๆ ได้
แล้วอะไรคือสาเหตุของสมาธิสั้น?
โรคสมาธิสั้นนั้นเกิดจากการทำงานที่ไม่ปกติของระบบประสาทชีววิทยาภายในร่างกาย อันได้แก่ สมองส่วนหน้า (Frontal Lobe of Cerebral Hemisphere) ทำงานน้อยกว่าปกติ ซึ่งสมองส่วนนี้เป็นสมองส่วนที่ควบคุมความคิด การเกิดสมาธิ การจัดระเบียบและการทำกิจกรรมแบบมีจุดมุ่งหมาย ส่วนความผิดปกติอีกประการหนึ่งก็คือ การเกิดปัญหาของการหลั่งสารเคมีในสมองที่เรียกว่า Dopamine และ Norepinephrine ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ช่วยกระตุ้นทำให้มีการเคลื่อนไหว ไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ เนื่องจากการขาดหรือมีสารเคมีดังกล่าวในปริมาณที่ไม่สมดุล และจะส่งผลให้แสดงพฤติกรรมผิดปกติจนไม่สามารถหยุดการกระทำได้ นอกจากนี้ การเป็นโรคภูมิแพ้ การที่สมองของเด็กได้รับความกระทบกระเทือนระหว่างการคลอด หรือได้รับการติดเชื้อหลังคลอด และการที่เด็กได้รับสารเคมี ที่เป็นอันตรายต่างๆ เช่น สารตะกั่วล้วนอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคสมาธิสั้นได้
พ่อแม่บางคนที่มีลูกสมาธิสั้น มักจะโทษตัวเองว่าเป็นเพราะตนเองเลี้ยงลูกไม่ดี ....ซึ่งขออธิบายค่ะว่า การเลี้ยงดูของพ่อแม่ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเกิดโรคสมาธิสั้น แต่การเลี้ยงดูและการดูแลที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง สามารถส่งผลให้เด็กที่มีอาการสมาธิสั้นอยู่แล้วมีอาการมากขึ้น ซึ่งในทางตรงกันข้าม การดูแลที่ดีกลับจะช่วยให้เด็กสามาธิสั้นมีอาการดีขึ้นได้
รู้ได้อย่าง...ว่าเด็กเป็นโรคสมาธิสั้น
การที่จะสรุปว่าเด็กคนใดเป็นโรคสมาธิสั้นหรือไม่นั้น ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ กุมารแพทย์ และจิตแพทย์ เป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งในประเทศไทยจะใช้คู่มือของ DSMIV 1994 (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorder) ของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (Psycho American Association) ซึ่งลักษณะเฉพาะของสมาธิสั้น มีอยู่ 3 อย่างคือ
• อาการขาดสมาธิ (Inattention) จำแนกได้ 9 อาการ
• ซุกซนไม่อยู่นิ่ง (Hyperactivity) จำแนกได้ 6 อาการ
• อาการหุนหันพลันแล่น (Impulsiveness) จำแนกได้ 3 อาการ
• อาการดังกล่าวต้องแสดงออกก่อนอายุ 7 ปี
อาการขาดสมาธิ (Inattention) ประกอบด้วย
1. มีความเลินเล่อในการทำกิจกรรมหรือการทำงานอื่นๆ และมักจะละเลยในรายละเอียด
2. ไม่มีสมาธิในการทำงานหรือการเล่น
3. ดูเหมือนไม่เชื่อฟังและไม่สนใจเมื่อมีคนพูดด้วย
4. ทำกิจกรรมไม่เสร็จ ทำตามคำสั่งไม่จบ
5. มีความลำบากในการจัดระเบียบงานหรือกิจกรรมที่ทำ
6. หลีกเลี่ยงงานที่ต้องใช้สมาธิ
7. ทำของหายบ่อยๆ
8. วอกแวกง่าย
9. ขี้ลืมเป็นประจำ

อาการซนไม่อยู่นิ่ง (Hyperactivity) ประกอบด้วย
1. นั่งไม่นิ่งขยับไปมา บิดตัวไปมา
2. ลุกจากที่นั่งในห้องเรียนหรือในที่อื่นที่ต้องนั่ง
3. วิ่งปีนป่านในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม ( มีอาการกระวนกระวาย กระสับกระส่าย)
4. ไม่สมารถเล่นเงียบๆ คนเดียวได้
5. เคลื่อนไหวตลอดเวลา
6. พูดมากเกินไป
อาการหุนหันพลันแล่น (Impulsiveness) ประกอบด้วย
1. ไม่อดทนรอคอย
2. พูดโพล่งออกมาในขณะที่ยังถามไม่จบ
3. พูดแทรกขัดจังหวะการสนทนาหรือการเล่น
ซึ่งอาการเหล่านี้ต้องปรากฏขึ้น อย่างน้อยใน 2 สถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ในห้องเรียน สนามเด็กเล่น หรือในที่ชุมชน ที่สำคัญข้อมูลเหล่านี้นำเสนอเพื่อให้คุณผู้อ่านใช้สังเกตลูกหลานเท่านั้น อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยว่าเด็กเป็นสมาธิสั้นหรือไม่ยังต้องเป็นหน้าที่ของแพทย์ค่ะ
เราจะช่วยเหลือเด็กสมาธิสั้นได้อย่างไร
• หากสังเกตว่าเด็กเข้าข่ายมีอาการสมาธิสั้น ไม่อยู่นิ่ง ควรพาเด็กไปพบกุมารแพทย์ หรือจิตแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย นอกจากนี้แพทย์ยังจะให้ตรวจโรคทางจิตอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การตรวจสติปัญญาของเด็ก ซึ่งในเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะมีสติปัญญาอยู่ในเกณฑ์ปกติ อาจจะมีการสัมภาษณ์คุณพ่อ-แม่ และครู หากเด็กถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น แพทย์จะให้การรักษาต่อไป
• การใช้พฤติกรรมบำบัดโดยนักจิตวิทยา ในกรณีที่เด็กมีอาการก้าวร้าวรุนแรง
• การทำกิจกรรมกลุ่มเพื่อให้เด็กได้พัฒนาทักษะทางสังคมในการอยู่ร่วมกับเพื่อนๆ
• ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กรับประทานอาหารที่ใส่สี ใส่สารกันบูด สารแต่งกลิ่นรส หรือน้ำตาลมากเกินไป รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้เด็กมีอาการสมาธิสั้นมากขึ้น
• การเลี้ยงดูเด็กโดยไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจน เช่น การที่พ่อแม่เร่งรีบในการทำกิจวัตรประจำวัน การให้เด็กเล่นเกมส์มากๆ หรือการปล่อยให้ดูโทรทัศน์ตลอดเวลา จะมีผลทำให้เด็กที่สมาธิสั้นอยู่แล้วมีอาการมากขึ้น และอาจทำให้เด็กปกติเกิดอาการที่เรียกว่า “สมาธิสั้นเทียม”ได้ หมายถึงว่าจากเด็กที่ไม่ค่อยอยู่นิ่งอยู่แล้วจะกลายเป็นไม่อยู่นิ่งมากขึ้น และไม่รู้จักควบคุมตนเอง ดังนั้นการจัดสิ่งแวดล้อมในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย การตั้งกฎระเบียบภายในบ้าน และการสอนให้รู้จักการทำงานให้เป็นขั้นตอน ตามลำดับก่อนหลัง จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการเลี้ยงดูเด็ก และนอกจากนี้พ่อแม่ยังต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่เด็ก การปรับทัศนคติที่ดีต่อเด็ก มีความเข้าใจเด็ก ให้กำลังใจ และไม่ตำหนิเด็กด้วย
• คุณครูที่โรงเรียนจะช่วยเด็กได้มากในการให้เวลากับเด็ก หาสิ่งที่เด็กชอบมาให้ทำ พร้อมทั้งให้กำลังใจ คำชมเชย และรางวัลแก่เด็ก
สมาธิสั้นหากไม่ได้รับการรักษาจะส่งผลทำให้เด็กเกิดความรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย ขาดความภาคภูมิใจและความมั่นใจในตนเอง คิดว่าตัวเองมีปมด้อย ไม่เก่ง ไม่ดีเหมือนคนอื่น ความรู้สึกนึกคิดเช่นนี้จะทำให้เด็กต่อต้านสังคม ก้าวร้าว ทำตัวผิดระเบียบ บางคนอาจถึงขั้นหันไปใช้ยาเสพติดเพื่อชดเชยความรู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก ซึ่งการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เด็กมีอาการดีขึ้นได้
การรักษาโรคสมาธิสั้นอาจต้องใช้เวลาในการรักษาตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งถึงวัยผู้ใหญ่ซึ่ง โรคสมาธิสั้นในวัยผู้ใหญ่ นอกจากจะได้รับการรักษาโดยยาแล้ว การรู้จักและยอมรับตนเองว่าเป็นโรคสมาธิสั้นและพยายามจัดระเบียบให้กับตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษา ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำงานได้ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและอาจจะมีโอกาสได้แสดงความสามารถพิเศษในเรื่องใดเรื่องหนึ่งออกมาก็ได้ เพราะคนที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะมีสติปัญญาปกติ จนถึงดีเลิศ ตัวอย่างบุคคลสำคัญที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่โมสาร์ท นักประพันธ์เพลงผู้ยิ่งใหญ่ โทมัส อัลวา เอดิสัน ผู้ที่สามารถคิดค้นการทำงานของหลอดไฟที่ใช้กันในปัจจุบัน หรือแม้กระทั่ง อับบราฮัม ลินคอร์น ผู้ที่ยกเลิกระบบทาสในประเทศสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ บุคคลเหล่านี้ล้วนมีประวัติว่าเป็นโรคสมาธิสั้นทั้งสิ้น แต่พวกเขาเหล่านี้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเขาสามารถแสดงศักยภาพที่โดดเด่นของเขาออกไปทั่วโลก
ดังนั้น สมาธิสั้นรักษาได้ โดยเฉพาะการรักษาที่เริ่มตั้งแต่ในวัยเด็กจะช่วยเหลือให้เด็กมีอาการดีขึ้นได้ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากพ่อแม่ และครู ร่วมมือกับแพทย์ผู้รักษา ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง และพยายามทำความเข้าใจอาการของโรค ทำความเข้าใจเด็ก ลดทัศนคติที่ไม่ดี และลดคำตำหนิติเตียน รวมถึงการให้กำลังใจ ให้ความสำคัญแก่เด็ก ส่งเสริมให้เด็กมีความภาคภูมิใจในตนเอง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีอาการดีขึ้นได้
นอกจากการร่วมมือช่วยเหลือกันระหว่างพ่อแม่และครูแล้ว ความเข้าใจของบุคคลในสังคมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากเราจะช่วยเหลือเด็กแล้วเรายังช่วยเหลือครอบครัวของเขาด้วย แล้วอาจจะส่งผลทำให้เด็กบางคนได้แสดงความสามารถพิเศษของเขาออกมา เขาอาจจะมีความสามารถโดดเด่นเช่น โมสาร์ทหรือบุคคลสำคัญอื่นๆ ก็เป็นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์แก่สังคม และประเทศชาติต่อไปในอนาคตด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น